รีวิว ตู้เย็นมินิบาร์ ของ Sonar ที่ต้องมีติดบ้าน

หลาย ๆ คนที่ชอบเดินทางไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ คงจะรู้สึกคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับตู้เย็นขนาดเล็ก หรือ ตู้เย็นมินิบาร์ ที่มักจะถูกนำมาติดตั้งเอาไว้ภายในห้องพักของโรงแรมหรือรีสอร์ตที่เราไปพัก เพื่อใช้สำหรับบรรจุเครื่องดื่มหรือขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนี้ การใช้งานตู้เย็นมินิบาร์ก็ไม่ถูกจำกัดอยู่แค่การใช้งานภายในห้องพักโรงแรมหรือรีสอร์ตเท่านั้น แต่ตู้เย็นมินิบาร์ได้กลายมาเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลาย ๆ คนนิยมนำมาใช้งานภายในที่พักแบบอาศัยแบบส่วนตัวกันมากขึ้น เนื่องด้วยข้อดีในด้านของการประหยัดไฟและประหยัดพื้นที่ใช้สอยในการติดตั้ง จึงทำให้ตู้เย็นมินิบาร์เหมาะสำหรับการนำมาติดตั้งเพื่อใช้งานในคอนโดมิเนียม หอพัก หรือห้องนอน ที่มีขนาดของพื้นที่ใช้สอยจำกัดได้เป็นอย่างดี

สำหรับใครที่กำลังมองหาตู้เย็นมินิบาร์มาใช้งานเองสักเครื่อง วันนี้เราก็มีข้อควรรู้เกี่ยวกับการเลือกซื้อตู้เย็นมินิบาร์ พร้อมข้อมูลและคุณสมบัติพิเศษเกี่ยวกับตู้เย็นมินิบาร์ 5 รุ่นยอดนิยมจากแบรนด์ SONAR แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพที่อยู่คู่คนไทยมากกว่า 48 ปี การันตีคุณภาพด้วยมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มาฝากกัน

ตู้เย็นมินิบาร์ คืออะไร ?

ตู้เย็นมินิบาร์ คือ ตู้เย็นขนาดเล็กซึ่งโดยทั่วไปแล้วมักจะถูกออกแบบมาให้มีลักษณะเป็นทรงลูกบาศก์ ที่มีขนาดความจุไม่เกิน 5.5 ลูกบาศก์ฟุต หรือ คิว เพื่อให้สามารถมีพื้นที่สำหรับใช้ในการจัดเก็บสิ่งของ อย่างเช่น อาหาร เครื่องดื่ม หรือเครื่องสำอาง ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด โดยระบบการทำงานของตู้เย็นมินิบาร์นั้นไม่ได้มีความแตกต่างไปจากตู้เย็นแบบธรรมดาที่นิยมนำมาใช้งานในที่พักอาศัยทั่วไปมากนัก แต่ด้วยขนาดที่เล็กกว่าทำให้ตู้เย็นมินิบาร์สามารถประหยัดพลังงานได้มากกว่า และด้วยขนาดที่เล็กกว่าตู้เย็นปกติทั่วไปจึงทำให้สามารถประหยัดพื้นที่ใช้สอยในการจัดวางได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า

ข้อควรพิจารณาก่อนการเลือกซื้อตู้เย็นมินิบาร์

ตู้เย็นมินิบาร์มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 มั้ย

การมีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 บนเครื่องใช้ไฟฟ้าถือเป็นหนึ่งในเครื่องการันตีชั้นว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนี้ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการประหยัดพลังที่ได้มาตรฐานตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และกระทรวงพลังงานเป็นผู้กำหนด โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีระดับความประหยัดพลังงานอยู่ที่เบอร์ 5 จะหมายถึง เครื่องใช้ไฟฟ้าที่สามารถประหยัดพลังงานที่สุด ในขณะที่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีระดับความประหยัดพลังงานต่ำกว่าเบอร์ 5 ลงไป จะหมายถึงประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานที่ลดน้อยลงตามไปด้วย

ยกตัวอย่างเช่น ตู้เย็นมินิบาร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จะกินไฟฟ้าที่อัตราประมาณ 220 หน่วย ต่อปี ซึ่งส่งผลให้ผู้ใช้งานต้องเสียค่าไฟประมาณ 573 บาท ต่อปี ในขณะที่ตู้เย็นที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 3 จะกินไฟอยู่ที่ประมาณ 332 หน่วย ต่อปี ซึ่งจะต้องเสียค่าไฟประมาณ 840 บาท ต่อปี หรือมากกว่ากันถึง 267 บาท ต่อปี เลยทีเดียว

คุณสมบัติพื้นฐานของตู้เย็นมินิบาร์

การศึกษาและพิจารณาคุณสมบัติพื้นฐานของตู้เย็นมินิบาร์ ไม่ว่าจะเป็น ขนาดความจุ ดีไซน์ ชั้นวางของ หรือชั้นวางของบริเวณด้านข้างประตู ก่อนการเลือกใช้งาน ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกซื้อตู้เย็นมินิบาร์ได้อย่างเหมาะสมกับจำนวนผู้ใช้ และลักษณะการใช้งานตามที่ต้องการ เนื่องจากในปัจจุบันนี้ตู้เย็นมินิบาร์ถูกออกแบบให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการแช่อาหาร เครื่องดื่ม ผลไม้ ยา หรือเครื่องสำอางได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น และนอกจากนี้ยังควรเลือกพิจารณาด้วยว่า ตู้เย็นมินิบาร์ดังกล่าวมีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับชื่อผู้ผลิตและเครื่องหมายการค้าที่ชัดเจนดีหรือไม่ และมีการให้รายละเอียดเกี่ยวกับประเภท รุ่น ความจุภายใน รูปแบบวงจรไฟฟ้า รวมไปถึงคู่มือแนะนำวิธีการใช้และการบำรุงรักษาตู้เย็นมินิบาร์ที่ครบถ้วนหรือเปล่า เพื่อให้เราสามารถเข้าใจและไว้วางใจในประสิทธิภาพการใช้งานได้อย่างดีที่สุด

ตู้เย็นมินิบาร์จะเยี่ยมมากหากมีคุณสมบัติเพิ่มเติมเหล่านี้

นอกเหนือไปจากคุณสมบัติพื้นฐานที่ผู้ใช้งานจำเป็นจะต้องศึกษาและทำความเข้าใจอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนการเลือกซื้อตู้เย็นมินิบาร์แล้วนั้น คุณสมบัติเพิ่มเติมของตู้เย็นมินิบาร์ อย่างเช่น ระบบกรองอากาศ (Air filtration) ที่ช่วยลดกลิ่นอับภายในตู้เย็นมินิบาร์ หรือระบบประหยัดพลังงาน (Energy-saving models) ที่ช่วยลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น และช่วยลดค่าไฟฟ้าให้น้อยลง ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสริมที่สำคัญที่ผู้ใช้งานไม่ควรมองข้ามไป เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานตู้เย็นมินิบาร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด